วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

เพิ่มเติมจากที่เรียน

การทำงานของสมอง สมองทำงานอย่างไร?????


  • สมองถูกออกแบบมาเพื่อการเรียนรู้ เพื่อ “ความอยู่รอด” เป็นสำคัญ
  • เด็กเล็กๆ เริ่มเรียนรู้ที่จะร้องไห้ ยิ้ม หัวเราะ กินอาหาร คลาน นั่ง เดิน พูด และทำกิจกรรมต่างๆ เป็นผลจากการที่สมองรับรู้ เรียนรู้ พัฒนาและเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อจะมีชีวิตรอด
  • สมองพัฒนาศักยภาพในการคิด ความจำ ผ่านกระบวนการที่เรียนว่า “การเรียนรู้” ซึ่งจะดำเนินไปตามกำหนด “เวลา” ที่เหมาะสม เราจึงให้ความสำคัญกับ “พัฒนาการตามช่วงวัย”
  • สมองประกอบด้วยเครือข่ายเซลล์สมองที่เชื่อมโยงกัน ซึ่งมีความสำคัญมากต่อการเรียนรู้ มีรายงานผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า เด็กอนุบาลสามารถเรียนรู้ภาษาพร้อมกันได้ถึง 7 ภาษา
  • นักวิทยาศาสตร์ให้ข้อสังเกตว่า เด็กมีศักยภาพที่จะพูดได้กว่า 5,000 ภาษาเท่าที่มีอยู่ในโลก แต่ความสามารถนี้จะค่อยๆ หมดไป เมื่อเด็กไม่ได้นำมาใช้
  • สมองซีกซ้าย โดดเด่นในการเรียนรู้และทำความเข้าใจภาษา เหตุผล รายละเอียด
  • สมองซีกขวา โดดเด่นในการเรียนรู้และทำความเข้าใจมิติ ความรู้สึก ภาพรวม
แหล่งที่มา : http://www.okmd.or.th/bbl/documents/342/bbl-brain-learn

Brain Based Learning คือ การใช้ความรู้ความเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับสมองเป็นเครื่องมือในการออกแบบกระบวนการเรียนรู้และกระบวนการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างศักยภาพสูงสุดในการเรียนรู้ของมนุษย์ โดยเชื่อว่าโอกาสทองของการเรียนรู้อยู่ระหว่างแรกเกิด – 10 ปี 


สมองเป็นกระบวนการคู่ขนาน 
              สมองเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญที่สุดในร่างกายของคนเรา เพราะการที่มนุษย์ สามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้นั้นจะต้องอาศัยสมองและระบบประสาทเป็นพื้นฐานของ การรับรู้ รับความรู้สึกจากประสาทสัมผัส ได้แก่ ตาทำให้เห็น หูทำให้ได้ยิน จมูกทำให้ได้กลิ่น ลิ้นทำให้ได้รับรส และผิวกายทำให้เกิดกการสัมผัส

สมองกับการเรียนรู้ 
              สมองไม่ได้มีหน้าที่เฉพาะรับรู้แต่เพียงอย่างเดียว แต่จะเป็นอวัยวะที่สำคัญต่อการ พัฒนาของอวัยวะทั้งหมดของร่างกาย ซึ่งจะรวมถึงการคิด การเรียนรู้ การจำ และพฤติกรรมของมนุษย์ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ครูผู้สอนควรจะมีความรู้เรื่องที่เกี่ยวกับการทำงานและการพัฒนาของสมอง เพื่อจะได้วางแผนจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในลักษณะที่กระตุ้นให้สมองคิดและทำงานแบบท้าทาย ยั่วยุมากที่สุด ผู้เรียนได้คิดและแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ในทุกด้าน ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนได้พัฒนากระบวนการคิดและเรียนรู้เต็มตามศักยภาพ เป็นรากฐานไปสู่การเป็นคนดี คนเก่งและมีความสุขในการดำรงชีวิตและเมื่อเติบโตขึ้นจะได้เป็นเยาวชนพลเมืองที่ดีของสังคมต่อไป 

แนวการจัดการเรียนการสอน 
            การเรียนรู้จะเกิดขึ้นได้มิใช่เกิดจากการสั่ง การสอน การถ่ายทอดเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเกิดจากประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของมนุษย์ มีการรับรู้ คือ การแสวงหาและรับข้อมูล ข้อความรู้จากประสาทสัมผัสต่าง ๆ มีการบูรณาการความรู้ เป็นการนำข้อมูลข่าวสาร ความรู้ใหม่ที่ได้รับมาผสมผสานเชื่อมโยงกับประสบการณ์ หรือโครงสร้างขอความรู้เดิม เพื่อขยายหรือสร้างความรู้ใหม่ มีการประยุกต์ใช้ คือการนำความรู้มาใช้ในการดำรงชีวิต หรือ การแก้ปัญหาในการทำงาน ดังนั้น การจัดการเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่แท้จริงและถาวรนั้น จะต้องจัดให้ครบ องค์ประกอบทั้ง 3 ส่วน ได้แก่ การรับรู้ การบูรณาการความรู้ และการประยุกต์ใช้ เพื่อเป็นการเชื่อมโยงความรู้สู่การปฏิบัติจริงในวิถีชีวิต 
  • การเก็บรวบรวมข้อมูล
  • การสั่งการของร่างกาย
  • การลงมือปฏิบัติ
  • วินัยเชิงบวก การใช้ภาษาในการสื่อสารที่ให้กำลังใจเด็ก

วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

Record of Learning 14

Record of Learning 14
Monday 30 April 2018




เนื้อหาที่เรียน  ความรู้ที่ได้รับ(์Knowladge)
  • การเรียนการสอนในวันนี้ เป็นการสอบสอนกิจกรรมเสริมประสบการณ์ต่อจากสัปดาห์ที่ผ่านมาของวันพฤหัสบดี และ วันศุกร์


สอนกิจกรรมเสริมประสบการณ์วันพฤหัสบดี
หน่วยผลไม้เพื่อสุขภาพ
(การถนอมอาหารประเภทผลไม้ถนอม)



วัตถุประสงค์
1. ร่วมสนทนากับครูได้             
2.บอกวิธีการถนอมอาหารประเภทผลไม้ได้           
3. มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น                  
4. พัฒนาทักษะการสังเกตและการเปรียบเทียบ                                            
สาระที่ควรเรียนรู้
      - การถนอมอาหาร ผลไม้หลายชนิดสามารถนำมาทำอาหารเก็บไว้รับประทานได้นานๆ หลายวิธี เช่น ตากแห้ง เชื่อม แช่อิ่ม กวน ดอง ฯลฯ
- ทักษะการสังเกต
- ทักษะการเปรียบเทียบ

ประสบการณ์สำคัญ
1. การร่วมสนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น      
2. การถนอมอาหาร
3. การสังเกตสิ่งต่างๆโดยใช้ปราสาทสัมผัสด้วยการมอง ฟัง สัมผัส ชิมรสและดมกลิ่นอย่างเหมาะสม


การจัดกิจกรรม
สงบเด็ก 
     เอามือวางไว้บนตัก  
     ช่างน่ารักน่ารักจริงๆ
     เด็กดีไม่ดื้อไม่ซน 
     เพราะเราทุกคนไม่ใช่ลูกลิง


ขั้นนำ 
   1. ให้เด็กทายปริศนาคำทาย ดังนี้
-อะไรเอ่ย? ลำต้นอวบใหญ่ มีใบสีเขียว ออกผลครั้งเดียว เป็นเครือเป็นหวี ตอบ กล้วย
ขั้นสอน
   2.เด็กและครู ร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการเก็บและการถนอมอาหารประเภทผลไม้ ดังนี้
         - ทำอย่างไร เราจึงจะเก็บผลไม้ไว้รับประทานได้นานๆ
         - การเก็บและการถนอมอาหารมีวิธีใดบ้าง
   3. ให้เด็กสังเกตรูปภาพผลไม้ที่ผ่านการถนอมอาหารมาแล้ว เช่น  กล้วยตาก เงาะกระป๋อง ผลไม้ดอง ฯลฯ           
   4.ครูเขียนลงชาร์ต วิธีถนอมอาหาร
   5.เด็กและครู ร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับผลไม้ที่ทำเองได้ที่บ้านกับผลไม้ที่ใช้เครื่องจักร ดังนี้
          -ผลไม้ที่เราทำเองได้ที่บ้านมีอะไรบ้าง
          -ผลไม้ที่ใช้เครื่องจักรทำมีอะไรบ้าง

ขั้นสรุป   
     6.เด็กและครูร่วมกันสรุปวิธีการถนอมอาหารประเภทผลไม้

สื่อ
1. ปริศนาคำทาย
2.รูปภาพ
3.ชาร์ตวิธีถนอมอาหาร
4.ชาร์ตตารางผลไม้ที่ทำเองได้ที่กับผลไม้ที่ใช้เครื่องจักร                    

การประเมิน
สังเกต                       
1. การสนทนาและการตอบคำถาม              
2. การร่วมกิจกรรม                 
3. ทักษะการสังเกตและการเปรียบเทียบ

ข้อเสนอแนะจากอาจารย์: ข้อเสนอแนะจากอาจารย์ต้องสอนให้ตรงกับแผนที่เขียนมา
ต้องมีจังหวะในการเชื่อมโยงเข้าสู่ ขั้นนำ



หน่วยบ้านแสนสุข
(หน้าที่ของคนในบ้าน)




วัตถุประสงค์
1.เด็กบอกหน้าที่ของตนเองขณะอยู่บ้านได้
2.เด็กฟังและตอบคำถามได้
3.เด็กสามารถร่วมสนทนาและแสดงความคิดเห็นได้
                                            
สาระที่ควรเรียนรู้
        ทุกคนในบ้านมีหน้าที่ต่างกัน เราควรช่วยเหลือตนเองในเรื่องการอาบน้ำ แต่งตัว รับประทานอาหาร เก็บของเล่น เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อแม่

ประสบการณ์สำคัญ
ด้านร่างกาย
1.การปฏิบัติตนตามสุขอนามัย
ด้านอารมณ์-จิตใจ
2.การแสดงออกอย่างสนุกสนานกับเรื่องตลก ขำขันและเรื่องราว เหตุการณ์ที่สนุกสนานต่างๆ
ด้านสังคม
3.การปฏิบัติกิจวัตรประจำวันของตนเอง
ด้านสติปัญญา
4.การแสดงความรู้สึกด้วยคำพูด


การจัดกิจกรรม


ขั้นนำ 
   1.ครูและเด็กร่วมกันท่องคำคล้องจอง
คำคล้องจอง ของใช้ประจำตัว
ของใช้ของหนู ต้องดูให้ดี
เก็บไว้เป็นที่ อย่าให้ปะปน
แก้วน้ำ เสื้อผ้า ขนม
อย่าให้สับสน  เก็บไว้ให้ดี
    2. ครูสนทนาเกี่ยวกับคำคล้องจอง โดยถามคำถาม เช่น
           - ในคำคล้องจองบอกให้เด็กทุกคนปฏิบัติหน้าที่อย่างไรบ้าง
           - นอกจากสิ่งที่มีอยู่ในคำคล้องจองเด็กๆมีหน้าที่อะไรอีก
  
ขั้นสอน
   3. ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับหน้าที่ที่เด็ก
ควรทำในบ้าน โดยครูใช้คำถาม ดังนี้
          -ในขณะที่เด็กๆอยู่ที่บ้านเด็กช่วยคุณพ่อคุณแม่ทำงานอะไรบ้าง ?
          - ถ้าเด็กๆ วางของกระจัดกระจายเต็มบ้านจะเป็นอย่างไร ?
          -เด็กๆมีวิธีใดบ้างที่จะทำให้บ้านน่าอยู่ ?
   4.ครูนำบัตรภาพเกี่ยวกับหน้าที่ต่างๆ มาให้เด็กดูพร้อมกับอธิบายรูปภาพนั้น
   5.ให้ตัวแทนเด็กออกมาติดบัตรภาพลงในตารางที่ครูเตรียมไว้


ขั้นสรุป   
   6.เด็กและครูร่วมกันสรุปกิจกรรมหน้าที่ภายในบ้าน   

สื่อ
  1.อุปกรณ์เกม
  2.ชาร์ตสรุปกิจกรรม                

การประเมิน
การสังเกต
  1.การฟังและการตอบคำถาม
  2.การทำงานร่วมกับผู้อื่น
  3.การอธิบายหน้าที่ของตนเองขณะอยู่บ้าน

ข้อเสนอแนะจากอาจารย์: ในคำคล้องจองไม่ควรถามเด็กว่า " แก้วน้ำเอาไว้ในตู้เสื้อผ้าได้หรือไม่ "
ควรจะเป็นการตั้งคำถามปลายเปิด เช่น เด็กๆ คิดว่า.......


สอนกิจกรรมเสริมประสบการณ์วันศุกร์
หน่วยบ้านแสนสุข
(กาปฏิบัติตนของสมาชิกในบ้าน)



วัตถุประสงค์
1.เด็กสามารถร่วมสนทนาและแสดงความคิดเห็นได้
2.บอกวิธีการปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีเมื่ออยู่ที่บ้านได้
3.เด็กกล้าแสดงออกและสามารถทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้
                                            
สาระที่ควรเรียนรู้
    การปฏิบัติตนต่อคนในครอบครัว เช่น การเป็นเด็กดี เชื่อฟังคุณพ่อคุณแม่ ช่วยพ่อแม่ ไม่เกเร ช่วยทำงานบ้าน เป็นต้น 

ประสบการณ์สำคัญ
ด้านร่างกาย
     การเคลื่อนไหวส่วนต่างๆของร่างกาย
ด้านอารมณ์
   กล้าพูดกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม
ด้านสังคม
    การทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น
ด้านสติปัญญา
     การตอบคำถาม และการสังเกต


การจัดกิจกรรม


ขั้นนำ 
  1.ครูเล่านิทานเรื่อง น้องไข่เจียวเป็นเด็กดีช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ให้เด็กฟังแล้วสนทนาเกี่ยวกับเนื้อเรื่องในนิทาน และเชื่อมโยงว่านอกจากในนิทานแล้วมีการปฏิบัติตนต่อคนในบ้านอย่างไรอีก แล้วบันทึกผลบนกระดาน โดยใช้คำถาม ดังนี้
       - น้องไข่เจียวปฏิบัติตนในบ้านอย่างไรบ้าง 
       - แล้วนอกจากในนิทาน เด็กๆมี วิธีปฏิบัติตนต่อคนในครอบครัวอย่างไร
  
ขั้นสอน
 1.ครูนำภาพการปฏิบัติตนต่อคนในบ้านมาให้เด็กสังเกต ดังนี้
      -ภาพเด็กเคารพเชื่อฟังพ่อแม่
      -ภาพเด็กมีกิริยามารยาทที่สุภาพ
      -ภาพเด็กช่วยทำงานบ้าน
      -ภาพเด็กไม่เกเรหรือทำอันตรายผู้อื่น
 2. ครูและเด็กร่วมกันสนทนาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพ ดังนี้
      -เด็กๆคิดว่า เด็กในภาพนี้ทำอะไรอยู่
      -จากในภาพ เด็กๆควรปฏิบัติตามหรือไม่ เพราะอะไร
 3. ครูขออาสาสมัครให้เด็กออกมาทำท่าทางกิจกรรมที่เด็กๆ ปฏิบัติตนเมื่ออยู่ที่บ้าน แล้วให้เพื่อนๆ ช่วยกันทายว่า ทำกิจกรรมอะไร ครูอธิบายเพิ่มเติม

ขั้นสรุป   
        ครูและเด็กร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการปฏิบัติตนเมื่ออยู่ที่บ้าน ดังนี้ ทุกคนในบ้านต้องมีหน้าที่ในการปฏิบัติ  เด็ก ๆก็ต้องมีหน้าที่ในการปฏิบัติตนต่อคุณพ่อคุณแม่และคนในครอบครัว ดังนั้นทุกคนมีหน้าที่ในการดูแลบ้านและปฏิบัติตนต่อคนในบ้าน 

สื่อ
 1.นิทานเรื่อง น้องไข่เจียวเป็นเด็กดีช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
 2.ภาพเด็กทำกิจกรรมต่างๆ ในบ้าน
             
การประเมิน
สังเกตพฤติกรรมของเด็ก ดังนี้
 1.บอกวิธีการปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดี
 2.การฟังและตอบคำถาม
 3.การแสดงออกและการทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น

ข้อเสนอแนะจากอาจารย์:ขั้นนำ ครูต้องนำเทคนิคการนำเข้าสู่บทเรียน เช่น เล่านิทาน เพลง คำคล้องจอง เกม มาเป็นตัวนำเข้าสู่เนื้อหาที่จะเรียน  ขั้นนำควรนำด้วยนิทาน ขั้นสอนควรสอนด้วยรูปภาพ ควรเขียนสาระที่ควรเรียนรู้ให้ละเอียด 


หน่วยใต้ร่มเงาไม้
(ข้อควรระวัง)



วัตถุประสงค์

1.เด็กสามารถรู้จักข้อควรระวังของต้นไม้
2.เด็กสามารถร่วมสนทนากับครูได้
3.เด็กสามารถร่วมกิจกรรมด้วยความสนุกสนาน                                            
สาระที่ควรเรียนรู้
   กิจกรรมการ เล่านิทาน เป็นกิจกรรมที่เรียนรู้ผ่านการเล่านิทานโดยใช้หน่วยใต้ร่มเงาไม้ ในหัวข้อ ข้อควรระวัง สอนให้เด็กระวังกิ่งไม้หัก ยางจากใบไม้ สัตว์หรือแมลงที่อาศัยอยู่ในต้นไม้ และเวลาฝนไม่ควรอยู่ใต้ต้นไม้ 

ประสบการณ์สำคัญ

ด้านร่างกาย
1.การเคลื่อนไหวอยู่กับที่
ด้านอารมณ์และจิตใจ
2. การแสดงออกอย่างสนุกสนานกับเรื่องตลก ขำขัน เรื่องราว / เหตุการณ์สนุกสนาน
ด้านสังคม
3.การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น
ด้านสติปัญญา

4.การแสดงความรู้สึกด้วยคำพูด
การจัดกิจกรรม


ขั้นนำ 
1. ครูร้องเพลงสงบเด็ก (เพลงลมเพลมพัด) จากนั้นครูก็สนทนากับเด็กเรื่องต้นไม้ และนำเข้าสู่การเล่านิทาน
  
ขั้นสอน

    2. ครูเล่านิทาน เรื่อง ใต้ร่มเงาไม้ ให้เด็กฟัง พร้อมอธิบายให้เด็กเห็นภาพชัดเจน ตลอดเนื้อเรื่อง
(เนื้อเรื่อง หลังบ้านของชูใจ มีต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งซึ่งเป็นต้นไม้ที่พ่อของชูใจปลูกไว้เมื่อ 30ปีทีแล้ว ชูใจชอบมานั่งเล่นใต้ต้นไม้ต้นนี้ประจำ วันหนึ่งแม่เห็นกิ่งไม้ตกใส่หัวของชูใจ แม่เลยเป็นห่วง และ บอกให้ชูใจระวังเกี่ยวกับต้นไม้ เพราะต้นไม้ต้นนี้ปลูกไว้นานแล้ว ชูใจก็ฟังแม่อย่างตั้งใจ และมีความสุขที่ได้เล่นใต้ต้นไม้ต้นนี้ )
ขั้นสรุป   
  3.ครูทวนข้อควรระวังกับเด็กอีกครั้ง
  4.ครูถามเด็กว่านอกจากข้อควรระวังที่กล่าวมามีอะไรอีก และนำคำตอบของเด็กบันทึกลงในแผ่นชาร์ต   

สื่อ

   - นิทาน
   - ฉากประกอบนิทาน / ตัวละคร
   - แผ่นชาร์ตข้อควรระวัง          
การประเมิน
สังเกตจาก
1.เด็กสามารถรู้จักข้อควรระวังของต้นไม้
2.เด็กสามารถสนทนากับครูได้
3.เด็กสามารถร่วมกิจกรรมด้วยความสนุกสนาน

ข้อเสนอแนะจากอาจารย์:  นิทานต้องสอดคล้องกับเนื้อหาที่จะสอนนิทานต้องร้อยเรียงให้กระชับ
ครูควรอธิบายให้เด็กฟังอย่างละเอียด >>> ยางจากต้นไม้ จะทำให้เด็กๆ เป็นแผลได้ เป็นต้น
ทักษะ

  • ทักษะการฟัง
  • ทักษะการคิดอย่างมีเหตุผล
  • ทักษะการสอน
  • ทักษะการต่อยอดความรู้
  • ทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ
  • ทักษะการทำงานเป็นทีม

การนำมาใช้

              ได้รู้จักการเขียนแผนกิจกรรมเสริมประสบการณ์ที่ถูกต้อง รวมถึงการสอนของเพื่อนๆทำให้ได้ความรู้ใหม่ๆและคำแนะนำจากอาจารย์ มาปรับใช้กับสถานการณ์การสอนต่างๆได้ เข้าใจมากขึ้น 
ประเมินตนเอง: มาเรียนตรงเวลา แต่งกายมาเรียนถูกระเบียบตามที่อาจารย์กำหนด และตั้งใจให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม

ประเมินเพื่อน:แต่งการถูกระเบียบ มาเรียนตรงเวลา ให้ความร่วมมือในการตอบคำถาม และตั้งใจให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม
ประเมินอาจารย์: อาจารย์มาสอนตรงเวลา แต่งกายเหมาะสม มีคำแนะนำดีๆเวลาทดลองสอน

ประเมินห้องเรียน: ห้องเรียนสะอาดกว้าง  บรรยากาศเหมาะสมกับการเรียน



วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

Record of Learning 13

Record of Learning 13
Monday 3 April 2018




เนื้อหาที่เรียน  ความรู้ที่ได้รับ(์Knowladge)

  • กิจกรรมการเรียนการสอนวันนี้ สอนในหน่วยต่างๆ ของ วันพุธ หน่วยตัวฉัน , หน่วยผลไม้ และสอนใน วันพฤหัสบดี หน่วยประสาทสัมผัสทั้งห้า , หน่วยใต้ร่มเงาไม้ , หน่วยตัวฉัน , หน่วยอาหารดีมีคุณค่า 

สอนกิจกรรมเสริมประสบการณ์วันพุธ
หน่วยผลไม้
(ประโยชน์ของผลไม้)





วัตถุประสงค์
เพื่อให้เด็ก
1.บอกประโยชน์ของผลไม้ได้
2.สนทนากับครูและเพื่อนๆได้
3.แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น
4.ฝึกทักษะกระบวนการคิด

สาระที่ควรเรียนรู้
      ประโยชน์ของผลไม้
1. เป็นอาหารให้กับคนและสัตว์
2. มีวิตามิน ช่วยบำรุงส่วนต่างๆ ของร่างกาย
และมีใยอาหาร ช่วยในระบบขับถ่าย
3.เราจะถนอมอาหารไว้กินนานด้วยวิธี การอบแห้ง ตาก
4. สร้างอาชีพและสร้างรายได้ เช่น ขายผลไม้ ชาวสวน และนำไปแปรรูปเพื่อส่งออก

ประสบการณ์สำคัญ
1.การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น
2.การแสดงความรู้สึกด้วยคำพูด
3.การมีโอกาสได้รับความรู้สึก ความสนใจ ความต้องการของตนเองและผู้อื่น
4.การพูดกับผู้อื่นเกี่ยวกับประสบการณ์ของตนเอง


การจัดกิจกรรม

ขั้นนำ 
   1. ครูเล่านิทานให้เด็กฟัง เรื่อง ผลไม้ดีมีประโยชน์ 
   2. ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับนิทานโดยใช้คำถาม ดังนี้
         -ในนิทานมีผลไม้อะไรบ้าง
         -เด็กๆรู้จักผลไม้ชนิดไหนอีกบ้าง
         -ในนิทานผลไม้มีประโยชน์อย่างไรบ้าง
         -นอกใจนิทานเด็กๆคิดว่าผลไม้มีประโยชน์อะไรบ้าง
         -ในนิทานมีการถนอมผลไม้อย่างไรบ้าง
         -นอกจากในนิทานเด็กๆมีวิธีถนอมผลไม้ด้วยวิธีใดบ้าง
   3.ครูถามความรู้เดิมเด็กเกี่ยวกับประโยชน์และวิธีถนอมผลไม้
   4.ครูเขียนลงมายแม็บ ประโยชน์ผลไม้และวิธีถนอมอาหาร


ขั้นสอน
  5.ครูและเด็กร่วมกันสรุปประโยชน์และวิธีถนอมผลไม้
ครูให้ตัวแทนเด็กออกมาจับคู่ประโยชน์ผลไม้
สื่อ
1.นิทาน เรื่อง ผลไม้ดีมีประโยชน์
2.มายแม็บประโยชน์ผลไม้
3.มายแม็บวิธีถนอมอาหาร

การประเมิน
การสังเกต
1.การบอกประโชน์ของผลไม้
2.การสนทนากับครูและเพื่อนๆ
3.การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น
4.การทักษะกระบวนการคิดในการตอบคำถาม
ข้อเสนอแนะจากอาจารย์:   ประโยชน์ของผลไม้และวิธีถนอมผลไม้ สามารถสอนคนละวันกันได้
มีภาพมาติดด้วย ให้เด็กเห็น สอนน้อยๆ ให้เด็กสามารถเชื่อมโยงได้ถามในนิทานให้เสร็จก่อน หลังจากนั้นถามประสบการณ์เดิม รูปภาพไม่ควรวางกับพื้น ควรวางบนโต๊ะ ผลไม้ ควรมาอยู่ข้างหน้า ผลไม้ >>> ประโยชน์ทบทวนด้วยการจับคู่



หน่วยตัวฉัน




การจัดกิจกรรม

ขั้นนำ 
  1.ครูและเด็กร่วมกันร้องเพลง "ฉันรักร่างกายของฉัน" 
 อาบน้ำแล้วสบายตัว
สระหัว หนูหมั่นสระผม
ตัดเล็บที่มันแหลมคม
ปากหอมน่าชมเพราะหนูแปลงฟัน
  2.ครูและเด็กสนทนาร่วมกันในเพลง การทำความสะอาดร่างกายมีอะไรบ้าง
ขั้นสอน
   3.ครูนำแผ่นชาร์จออกมากระตุ้นเด็กด้วยคำถาม "เด็กๆคิดว่าเราจะมีวิธีการดูแลรักษาร่างกายของเราได้ด้วยวิธีใดบ้าง
  4.ครูสาธิตขั้นตอนการล้างมือ พร้อมให้เด็กทำตาม
ขั้นสรุป
  5.ครูและเด็กร่วมกันสรุปขั้นตอนการล้างมือ และทบทวนเกี่ยวกับการดูแลร่างกายของเรา
ข้อเสนอแนะจากอาจารย์:   สอนทีละขั้นตอน
เอารูปภาพมาติดก่อน จากนั้นทำให้เด็กดู
เพลงต้องมีความสอดคล้องกับเนื้อหาของขั้นตอนการล้างมือ ไม่ควรใช้กระดาษสีสะท้อนแสง

สอนกิจกรรมเสริมประสบการณ์วันพฤหัสบดี
หน่วยประสาทสัมผัสทั้งห้า

(หน้าที่อวัยวะ "หู")


วัตถุประสงค์
1. เด็กสนทนาเรื่องการได้ยินร่วมกันได้
2. เด็กเปรียบเทียบเสียงที่ได้ยินได้
3. เด็กบอกแหล่งกำเนิดเสียงได้
สาระที่ควรเรียนรู้
      - แหล่งกำเนิดเสียง
      -  ธรรมชาติ
      -  มนุษย์สร้างขึ้น

ประสบการณ์สำคัญ
ด้านร่างกาย
1. การรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นในกิจวัตรประจำวัน
ด้านอารมณ์-จิตใจ
2. การแสดงปฏิกริยาโต้ตอบเสียงดนตรี
ด้านสังคม
3. การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น
ด้านสติปัญญา
4. การรู้จักสิ่งต่างๆด้วยการมอง ฟัง สัมผัส  ชิมรสและดมกลิ่น

การจัดกิจกรรม

ขั้นนำ 
 1.ครูและเด็กๆร่วมกันร้องเพลง “ ตาดูหูฟัง ”
                    เรามีตาไว้ดู เรามีหูไว้ฟัง
                    คุณครูท่านสอนท่านสั่ง
                    ต้องตั้งใจฟัง ต้องตั้งใจดู
2.ครูและเด็กๆร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการได้ยิน

ขั้นสอน
   3.ครูให้เด็กๆฟังเสียงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ดังนี้ ฝนตก ฟ้าผ่า นกร้อง แล้วให้เด็กๆบอกว่าได้ยินเสียงอะไร จากนั้นบันทึกผล
  4.ครูให้เด็กๆฟังเสียงที่เกิดขึ้นจากมนุษย์ ดังนี้ ร้องเพลง ดนตรี เสียงพูด แล้วให้เด็กๆบอกว่าได้ยินเสียงอะไร จากนั้นบันทึกผล

  5.ครูให้เด็กๆแยกเสียงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและเกิดขึ้นจากมนุษย์

ขั้นสรุป
  6.ครูสนทนาร่วมกันกับเด็กเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดเสียงว่ามีอะไรบ้าง เสียงที่เรียนไปมีเสียงอะไรบ้างและนอกเหนือจากที่เรียนไปมีเสียงอะไรอีกบ้าง

สื่อ
- ชาร์จเพลง
- เสียงต่างๆ
- ตารางบันทึกผล
- ตารางแยกแหล่งกำเนิดเสียง

การประเมิน
การสังเกตจาก
1. เด็กสามารถสนทนาเรื่องการได้ยินร่วมกันได้
2. เด็กสามารถเปรียบเทียบเสียงที่ได้ยินได้
3. เด็กสามารถบอกแหล่งกำเนิดเสียงได้

ข้อเสนอแนะจากอาจารย์:  วัตถุประสงค์ต้องสอดคล้องกัน   สาระที่ควรเรียนรู้ ต้องเขียนอธิบายให้ชัดเจนประสบการณ์สำคัญเขียนให้สอดคล้องกับเรื่อง เพลงที่เอามานั้น ต้องสอนเรื่องหู (สามารถแต่งขึ้นเองได้)  หยิบภาพมาติด (ภาพควรมีตัวลวงด้วย)ควรเลือกแค่เกณฑ์เดียว คือ เสียงธรรมชาติ กับ ไม่ใช่เสียงธรรมชาติควรมีภาพให้เห็น 

หน่วยใต้ร่มเงาไม้
(ประโยชน์ของต้นไม้)



วัตถุประสงค์
1.เพื่อให้เด็กร่วมสนทนากับครูได้
2.เพื่อให้เด็กบอกประโยชน์ของต้นไม้ได้อย่างน้อย 5 อย่าง
3. เด็กตอบคำถามได้

สาระที่ควรเรียนรู้
    - ต้นไม้มีประโยชน์หลายด้านทั้งต่อตนเอง ต่อโลก และในการสร้างอาชีพ ได้แก่ ไม้แปรรูป เป็นต้น
ประสบการณ์สำคัญ
ด้านร่างกาย
- การประสานสัมพันธ์ระหว่างตากับมือ
ด้านอารมณ์และจิตใจ
- . การร่วมกิจกรรมด้วยความสนุกสนาน
ด้านสังคม
- การเล่นและทำงานร่วมกับผู้อื่น
ด้านสติปัญญา
- การแสดงความรู้สึกด้วยคำพูด


การจัดกิจกรรม

ขั้นนำ 
  1. ครูแจกจิ๊กซอว์รูปโต๊ะเก้าอี้ให้เด็กออกมาต่อให้สมบูรณ์ที่กระดานหน้าห้อง

 2. ครูสนทนาเกี่ยวกับจิ๊กซอว์รูปโต๊ะเก้าอี้ “เด็กๆทราบไหมว่าโต๊ะเก้าอี้ทำมาจากอะไร” หลังจากนั้นครูก็ถามเด็กๆจากประสบการณ์เดิมว่าเด็กๆลอง มองรอบๆห้องเรียนสิว่ามีอะไรบ้างที่ทำมาจากต้นไม้นอกเหนือจากรูปภาพที่ครูเอามา                                         
ขั้นสอน
 3. ครูบอกประโยชน์ของต้นไม้ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ประโยชน์ต่อตนเอง  ประโยชน์ต่อโลก ประโยชน์ในการสร้างอาชีพ เชิงพานิชย์
4. ครูให้เด็กออกมาเลือกรูปภาพที่ครูเตรียมไว้แล้วให้เด็กๆช่วยกันดูว่ารูปภาพที่เด็กๆเลือกมาเป็นประโยชน์ในด้านไหนแล้วนำมาติดลงในตาราง 
ขั้นสรุป
  5. ครูและเด็กร่วมกันสรุปประโยชน์ของต้นไม้    “ครูถามเด็กๆว่าสรุปแล้วต้นไม้สามารถนำมาทำอะไรได้บ้าง” 

สื่อ
- จิ๊กซอว์รูปโต๊ะเก้าอี้
- แผ่นบันทึกประโยชน์ของต้นไม้
- แผ่นตารางบันทึก
- รูปภาพประโยชน์ของต้นไม้

การประเมิน
สังเกตจาก
1.การตอบคำถามการแลกเปลี่ยนความคิดของเด็ก
2.เด็กบอกประโยชน์ของต้นไม้ได้อย่างน้อย 5 อย่าง
3.การสนทนาถามเด็ก 

ข้อเสนอแนะจากอาจารย์:   ควรมีรูปภาพมาให้เด็กเห็นเชิงพาณิชย์ คำยากไป เปลี่ยนเป็น "อาชีพ"
ไม่ควรเอาภาพเดียวกัน ต้องมีจังหวะการสอน


หน่วยตัวฉัน

(การปฏิบัติตนให้มีพลานามัยที่ดี)




วัตถุประสงค์
1.  เพื่อให้เด็กบอกการปฏิบัติตนให้มีพลานามัยดีได้
2.  เพื่อให้เด็กร่วมสนทนากับครูได้
3. เด็กร่วมกิจกรรมด้วยความสนุกสนาน

สาระที่ควรเรียนรู้
      - การปฏิบัติตนให้มีพลานามัยที่ดี ได้แก่ การออกกำลังกาย, การกินอาหารที่มีประโยชน์, การพักผ่อน และการดูแลรักษาความสะอาดของร่างกาย

ประสบการณ์สำคัญ
ด้านร่างกาย
    1. การประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตา
ด้านอารมณ์ – จิตใจ
    2. การร่วมกิจกรรมด้วยความสนุกสนาน
ด้านสังคม
    3. การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น
ด้านสติปัญญา
    4. การใช้ภาษาในการตอบคำถาม
    5. การคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล

การจัดกิจกรรม

ขั้นนำ 
  1. ครูร้องเพลง ให้เด็กๆ เอามือปิดตา จากนั้นครูแจกชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ให้เด็กตัวแทนออกมาต่อเป็นรูป
  2. จากภาพที่สมบูรณ์ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับภาพการออกกำลังกายด้วยการถามคำถาม และตอบคำถาม
- ในภาพเด็กๆคิดว่าเขาทำอะไร
- แล้วเขาทำไปทำไม

ขั้นสอน
   3. ครูสนทนาและแสดงข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติตนให้มีพลานามัยดี   โดยใช้คำถามดังนี้
- เด็กๆ คิดว่าการออกกำลังกายมีอะไรบ้าง

  • การออกกำลังกาย

      วิ่ง
      เต้นแอโรบิค
      กระโดดเชือก
- นอกจากการออกกำลังกายแล้วเด็กๆคิดว่ายังมีอะไรอีกบ้าง
  •    กินอาหารที่มีประโยชน์

- เด็กๆ คิดว่าอาหารที่มีประโยชน์มีอะไรบ้าง
      นม
      ผัก
      ผลไม้
      ข้าว 
      เนื้อสัตว์
   การพักผ่อน
- เด็กๆ คิดว่าการพักผ่อนมีอะไรบ้าง
      นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
      ฟังเพลง
      ดูทีวี
  ดูแลรักษาความสะอาดของร่างกาย
- เด็กๆ คิดว่าการดูแลรักษาร่างกายมีอะไรบ้าง
      อาบน้ำ
      แปรงฟัน
      ล้างมือ
ขั้นสรุป
 4. เด็กและครูสนทนาร่วมกัน สรุปถึงวิธีการปฏิบัติตนให้มีพลานามัยที่ดี

สื่อ
1.จิ๊กซอว์ภาพการออกกำลังกาย
2.บัตรภาพกิจกรรมต่างๆ
3.Mindmap การปฏิบัติตนให้มีพลานามัยที่ดี

การประเมิน
การสังเกตจาก
1. การตอบคำถามขณะทำกิจกรรม
2. การแสดงออกขณะทำกิจกรรม

ข้อเสนอแนะจากอาจารย์: มีภาพใหญ่ก่อน ถามประสบการณ์เดิมภาพในขั้นนำต้องเชื่อมโยงกับการสอน ควรมีการอธิบายภาพที่เด็กเลือกติด
  


หน่วยอาหารดีมีคุณค่า

(ประโยชน์ของอาหาร)









วัตถุประสงค์
1. เด็กบอกวัตถุดิบในการทำหมูสร่งได้
2. เด็กบอกขั้นตอนการทำหมูสร่งได้
3. เด็กบอกรสชาติของหมูสร่งได้

สาระที่ควรเรียนรู้
     - วัตถุดิบ ขั้นตอนในการทำและรสชาติหมูโสร่ง
ประสบการณ์สำคัญ
ด้านร่างกาย
- การปฏิบัติตนตามสุขอนามัย
 ด้านอารมณ์
- การร้องเพลง
 ด้านสังคม
- การเล่นและการทำงานร่วมกับผู้อื่น
ด้านสติปัญญา
   - การรู้จักสิ่งต่างๆด้วยการมอง ฟัง สัมผัส ชิมรสและดมกลิ่น

การจัดกิจกรรม

ขั้นนำ 
  - ครูและเด็ก ๆ ร่วมกันทำกิจกรรมเปิดภาพปริศนา

ขั้นสอน
   - ครูและเด็ก ๆ สนทนาเกี่ยวกับหมูโสร่ง เช่น
   “เด็กๆรู้จักหมูสร่งไหมคะ”
   “เด็กๆเคยรับประทานหมูสร่งไหมคะ” เป็นต้น
- ครูและเด็กๆร่วมกันอ่านวัตถุดิบ อุปกรณ์และวิธีการทำหมูสร่ง
- ครูสาธิตวิธีการทำหมูสร่ง
- ครูให้เด็กแบ่งกลุ่ม 4 กลุ่ม  ครูขอตัวแทนออกมารับวัตถุดิบ อุปกรณ์
- สมาชิกในกลุ่มร่วมมือกันทำหมูสร่ง
- ครูขอตัวแทนของแต่ละกลุ่ม 1 คนออกมานำเสนอหมูสร่ง

ขั้นสรุป
- ครูตั้งคำถามว่า
“วัตถุดิบในการทำหมูสร่งมีอะไรบ้าง?” “หมูโสร่งมีขั้นตอนในการทำอย่างไร?” “รสชาติเป็นอย่างไร?”

สื่อ
- แผ่นชาร์ทวัตถุดิบและวัตถุดิบจริงในการทำหมูโสร่ง
- แผ่นชาร์ทอุปกรณ์และอุปกรณ์จริงในการทำหมูโสร่ง
- แผ่นชาร์ทขั้นตอนการทำหมูโสร่ง

การประเมินผล
สังเกตจากการทำกิจกรรมของเด็ก
1. เด็กสามารถบอกวัตถุดิบในการทำหมูโสร่งได้
2. เด็กสามารถบอกขั้นตอนการทำหมูโสร่งได้
3. เด็กบอกรสชาติของหมูโสร่งได้


ข้อเสนอแนะจากอาจารย์: ควรเตรียมของไว้ให้เด็กเรียบร้อยควรบอกสัดส่วนของวัตถุดิบให้ชัดเจน ให้เด็กได้เรื่องของคณิตศาสตร์วิธีการจัดกลุ่ม ไม่ต้องเวียนฐาน มีอุปกรณ์ไว้ให้ครบทุกจุด  ให้เด็กๆจัดจานด้วยตัวเอง วิธีการจัดกลุ่ม มี 2 วิธี ได้แก่ วิธีที่ 1 ครูเตรียมอุปกรณ์วางไว้แล้วทั้ง 3 ฐาน วิธีที่ 2 ครูจัดเป็นฐานกิจกรรม ครูอาจจัดให้เด็กปั้นหมูเป็นรูปทรงต่างๆได้ 
ทักษะ

  • ทักษะการฟัง
  • ทักษะการคิดอย่างมีเหตุผล
  • ทักษะการสอน
  • ทักษะการต่อยอดความรู้
  • ทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ
  • ทักษะการทำงานเป็นทีม

การนำมาใช้

              ได้รู้จักการเขียนแผนกิจกรรมเสริมประสบการณ์ที่ถูกต้อง รวมถึงการสอนของเพื่อนๆทำให้ได้ความรู้ใหม่ๆและคำแนะนำจากอาจารย์ มาปรับใช้กับสถานการณ์การสอนต่างๆได้ เข้าใจมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้รู้วิธีการสอนแบบ Cooking โดยรู้วิธีการจัดกิจกรรมที่ถูกต้องและปลอดภัย 

ประเมินตนเอง: มาเรียนตรงเวลา แต่งกายมาเรียนถูกระเบียบตามที่อาจารย์กำหนด และตั้งใจให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม

ประเมินเพื่อน:แต่งการถูกระเบียบ มาเรียนตรงเวลา ให้ความร่วมมือในการตอบคำถาม และตั้งใจให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม
ประเมินอาจารย์:อาจารย์มาสอนตรงเวลา แต่งกายเหมาะสม มีคำแนะนำดีๆเวลาทดลองสอน

ประเมินห้องเรียน: ห้องเรียนสะอาดกว้าง  บรรยากาศเหมาะสมกับการเรียน